การประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 47/2568


 สพฐ. เดินหน้าฟื้นการเรียน พื้นที่ชายแดน-น้ำท่วม เน้นยืดหยุ่น–เสริมสื่อการเรียนรู้ พร้อมจัดมหกรรมส่งเสริมประวัติศาสตร์ฯ และวันเด็กยิ่งใหญ่

วันที่ 16 ธันวาคม 2568 นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นประธานการประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 47/2568 โดยมีนายพิเชฐร์ วันทอง และนายวิษณุ ทรัพย์สมบัติ รองเลขาธิการ กพฐ. ร่วมประชุม พร้อมผู้อำนวยการสำนักต่าง ๆ และบุคลากรของ สพฐ. เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ 

นายพิเชฐ เปิดเผยว่า สถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชายังคงส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสถานศึกษา โดยมีโรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอนแล้ว 1,112 แห่ง ใน 7 จังหวัด 14 เขตพื้นที่การศึกษา ขณะเดียวกันมีโรงเรียนอีก 79 แห่งถูกใช้เป็นศูนย์พักพิงร่วมกับชุมชน ซึ่งต้องทำหน้าที่ทั้งจัดการเรียนการสอนให้เด็กนักเรียน และดูแลประชาชนควบคู่กับฝ่ายปกครอง

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจผู้บริหาร ครู นักเรียน และประชาชน พร้อมระดมเงินบริจาคหลายล้านบาท รวมถึงสิ่งของอุปโภคบริโภคกว่า 30 คันรถ เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ภายใต้แนวคิด “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

ด้านการจัดการเรียนการสอน สพฐ. ได้ปรับรูปแบบให้มีความยืดหยุ่นตามสถานการณ์ ด้วยแนวทาง “Anywhere Anytime” ทั้งการเรียนที่บ้านและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภายในศูนย์พักพิง โดยอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานการศึกษาในพื้นที่ มหาวิทยาลัย ครู นักเรียน และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมผ่อนปรนการวัดและประเมินผล เพื่อลดความกังวลของนักเรียนและผู้ปกครอง นอกจากนี้ ยังสนับสนุนสื่อการเรียนรู้ หนังสือ และกิจกรรมเสริมต่าง ๆ โดยประสานความร่วมมือกับมูลนิธิสารานุกรมไทย รวมถึงสื่อด้านประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง

สพฐ. จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมลงพื้นที่เพิ่มเติม โดยหากสถานการณ์คลี่คลาย จะเร่งกลับสู่การจัดการเรียนการสอนเต็มรูปแบบ พร้อมพิจารณาขยายวันสอบในพื้นที่เสี่ยง และจัดกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ให้เหมาะสม ควบคู่กับการปลูกฝังความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ผ่านกิจกรรมและบทเพลงที่สร้างความผูกพันในหมู่เยาวชน

ขณะเดียวกัน สพฐ. ยังให้การช่วยเหลือสถานศึกษาในพื้นที่ภาคใต้ที่ประสบอุทกภัย ด้วยการสนับสนุนอุปกรณ์การเรียนและเงินบริจาคเพิ่มเติม รวมถึงความร่วมมือจากภาคเอกชนที่มอบเงินสนับสนุนจำนวน 10 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจำนวน 50 แห่ง

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ท่ามกลางสถานการณ์ภัยพิบัติ ยังมีกิจกรรมด้านการศึกษาที่พร้อมเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง อาทิ กิจกรรมส่งเสริมการเรียนการสอนประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ซึ่งจะจัดงานใหญ่ที่จังหวัดพะเยา ในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ และเตรียมขยายสู่ภาคใต้ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในเดือนมกราคม 2569 ต่อด้วยกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ วันที่ 10 มกราคม 2569 ณ กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งจะจัดอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกิจกรรมและของรางวัลจาก สพฐ. โรงเรียนในสังกัด และภาคเอกชน

นอกจากนี้ ยังเตรียมจัดงานนวัตกรรมการศึกษา “วันนักประดิษฐ์ 2569” ณ ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา เพื่อส่งเสริมการพัฒนาครู บุคลากร และระบบการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนการศึกษาไทยสู่ความยั่งยืนในอนาคต










ข่าวโดย : อัจฉรา ทั่งโม

ที่มา >>>สพฐ. เร่งดูแลโรงเรียนน้ำท่วม 11 จังหวัด เล็งจัดงบภัยพิบัติทุกเขตพื้นที่ พร้อมขยายผล “หมอนทองฟีเวอร์” หนุนกีฬา-ดนตรีในโรงเรียน เสริมทักษะผู้เรียนตามความถนัดและสนใจ - OBEC<<<

 


                                                           ประกาศ สพฐ.



การประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 46/2568

 

สพฐ. เร่งดูแลโรงเรียนประสบภัย ชายแดน-น้ำท่วม เตรียมลงพื้นที่อีสานใต้ 12 ธ.ค. มอบถุงยังชีพ–ชุดการเรียนรู้

วันที่ 9 ธันวาคม 2568 นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นประธานการประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 46/2568 โดยมีนายพิเชฐร์ วันทอง และนายวิษณุ ทรัพย์สมบัติ รองเลขาธิการ กพฐ. ร่วมประชุม พร้อมผู้บริหารเขตพื้นที่ในจังหวัดประสบภัยภาคใต้ 15 จังหวัด และพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา 6 จังหวัด รวมถึงผู้อำนวยการสำนักต่าง ๆ ของ สพฐ. ทั้งในห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบออนไลน์

นายพิเชฐเผยว่า สถานการณ์พื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชาได้รับผลกระทบอย่างหนัก มีโรงเรียนปิดการเรียนการสอน 988 แห่ง ใน 14 เขตพื้นที่ และโรงเรียน 22 แห่งถูกใช้เป็นศูนย์พักพิงร่วมกับชุมชน ขณะนี้มีประชาชนทยอยเข้าพัก สพฐ. จึงสั่งเดินหน้าการจัดการเรียนรู้อย่างยืดหยุ่นตามแนวคิด “เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา” พร้อมจัดกิจกรรมบรรเทาความเครียดแก่เด็กในศูนย์พักพิง และเตรียมจัดส่งถุงยังชีพ–ชุดการเรียนรู้ลงพื้นที่ โดยคณะผู้บริหารส่วนกลางจะลงพื้นที่อีสานใต้วันที่ 12 ธันวาคมนี้ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ส่วนพื้นที่ภาคใต้ที่ประสบอุทกภัย โรงเรียนได้รับผลกระทบ 984 แห่ง และเคยใช้เป็นศูนย์พักพิง 252 แห่ง ซึ่งปิดลงแล้วทั้งหมด โรงเรียนส่วนใหญ่กลับมาเปิดเรียนตามปกติ เหลือเพียงบางแห่งที่ยังคงจัดการเรียนรู้ผ่านออนไลน์ สพฐ. อยู่ระหว่างฟื้นฟู เยียวยา และจัดหาเครื่องแบบ หนังสือ และอุปกรณ์เรียนทดแทนที่สูญหาย พร้อมอนุโลมให้นักเรียนแต่งชุดทั่วไปมาเรียนได้ชั่วคราว นอกจากนี้ยังเน้นให้โรงเรียนยืดหยุ่นเรื่องวันเรียนและการประเมินผล โดยไม่จำเป็นต้องเรียนครบ 200 วัน สามารถประเมินจากผลงานหรือกิจกรรมได้ตามความเหมาะสม

นายพิเชฐยังย้ำการจัดซื้อหนังสือและครุภัณฑ์ต้องโปร่งใส ถูกต้องตามระเบียบ และต้องมีกระบวนการมีส่วนร่วมจากครู ผู้ปกครอง และกรรมการสถานศึกษาอย่างครบถ้วน พร้อมกำชับห้ามสั่งของก่อนการอนุมัติจัดซื้ออย่างเด็ดขาด

สำหรับวันเด็กแห่งชาติ ปี 2569 สพฐ. เตรียมจัดกิจกรรมทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเพื่อมอบความสุขให้เด็กกว่า 6 ล้านคน รวมถึงนำผลงานนักเรียนร่วมกิจกรรมตักไข่ในงานกาชาด เพื่อนำรายได้สมทบการกุศลอีกด้วย





ข่าวโดย : อัจฉรา ทั่งโม

ที่มา >>>สพฐ. เร่งดูแลโรงเรียนน้ำท่วม 11 จังหวัด เล็งจัดงบภัยพิบัติทุกเขตพื้นที่ พร้อมขยายผล “หมอนทองฟีเวอร์” หนุนกีฬา-ดนตรีในโรงเรียน เสริมทักษะผู้เรียนตามความถนัดและสนใจ - OBEC<<<

การประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 45/2568


สพฐ. ระดมพลังช่วยอุทกภัยภาคใต้ ปล่อยคาราวานน้ำใจ 5 จังหวัด 4 ธ.ค. นี้

วันที่ 2 ธันวาคม 2568 นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) มอบหมายให้ นายวิษณุ ทรัพย์สมบัติ รองเลขาธิการ กพฐ. เป็นประธานการประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 45/2568 พร้อมด้วย นางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย รองเลขาธิการ สพฐ. โดยเน้นย้ำข้อสั่งการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. เพื่อให้ผู้บริหารและบุคลากรดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วน โดยมีผู้อำนวยการสำนักต่างๆ ของ สพฐ. และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบ Zoom meeting 

โดยในที่ประชุมได้หารือประเด็นสำคัญต่างๆ เรื่องแรกคือ การดำเนินการช่วยเหลือสถานศึกษาและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยภาคใต้ โดย สพฐ. ได้บรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน ทั้งการจัดทำถุงยังชีพ สร้างขวัญกำลังใจ และมอบเงินเยียวยาปลอบขวัญผู้ประสบภัยและครอบครัว พร้อมทั้งเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือภายใต้บัญชี “รวมน้ำใจ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย สพฐ.” ธนาคารกรุงไทย สาขากระทรวงศึกษาธิการ เลขที่ 059-0-417843 และเปิดรับบริจาคสิ่งของจำเป็นและเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อรวบรวมจัดทำเป็นคาราวานส่งมอบให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งมีกำหนดปล่อยขบวนในวันที่ 4 ธันวาคม 2568 นี้ ณ บริเวณสวนวันครู อาคาร สพฐ. 1 กระทรวงศึกษาธิการ โดยมี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานในพิธี และคณะผู้บริหารของ สพฐ. ร่วมปล่อยคาราวานน้ำใจไปยัง 5 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสงขลา ยะลา นครศรีธรรมราช นราธิวาส และปัตตานี เพื่อนำไปกระจายช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวและพื้นที่ใกล้เคียงต่อไป 

ทั้งนี้ ก่อนเริ่มการประชุม ได้มีผู้บริหารโรงเรียนและบุคลากรหน่วยงานต่างๆ ทยอยเข้ามอบเงินบริจาค สิ่งของจำเป็นและเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อร่วมสมทบคาราวานน้ำใจสู่ 5 จังหวัดภาคใต้ ในโอกาสนี้ด้วย

นอกจากนี้ ในที่ประชุมได้มีการสรุปผลการจัดกิจกรรมวิชาการ “ร่วมคิด ร่วมทำ รวมพลังผู้นําการศึกษาและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พบว่ามีผู้สนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทั้งแบบ On-Site จำนวน 2,282 คน ประกอบด้วย คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จาก 149 โรงเรียนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 1,500 คน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 133 คน ผู้บริหารสถานศึกษา/ครู 354 คน และนักเรียน 295 คน ขณะที่ผู้รับชมผ่านช่องทางออนไลน์ OBEC Channel มีมากถึง 124,532 คน โดยกิจกรรมภายในงานนอกจากการมอบนโยบายขับเคลื่อนการศึกษา โดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศธ. และผู้บริหาร สพฐ. แล้ว ยังมีเวทีเสวนาเปิดมุมมองใหญ่ “ร่วมคิด ร่วมทำ รวมพลัง” พร้อมเจาะลึกบทบาทและความร่วมมือระหว่างภาคส่วน และอภิปรายถึงปัญหา-อุปสรรค-โอกาส-ความท้าทาย ร่วมกัน และจัดแสดงนิทรรศการการศึกษา ภายใต้แนวคิด “บทบาทของคณะกรรมการสถานศึกษาฯ ในการส่งเสริมสนับสนุนการดําเนินงานของโรงเรียนให้เป็นไปตามนโยบาย เพื่อให้โรงเรียนสามารถจัดการศึกษาที่มีคุณภาพและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เด็กนักเรียนทุกคน” ประกอบด้วยนิทรรศการจากกลุ่ม สพฐ. จำนวน 20 บูธ และกลุ่มหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง จำนวน 5 บูธ รวมทั้งสิ้น 25 บูธ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างดี 

อีกเรื่องที่สำคัญ คือ การลงนามความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง Canva และ สพฐ. เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งจะให้สิทธิครู นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษากว่า 6 ล้านคน สามารถใช้ Canva Education ได้ฟรี พร้อมฟีเจอร์พรีเมียมทั้งหมด รวมถึงจะพัฒนาครู นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษา ให้มีศักยภาพ ประสบการณ์การเรียนรู้ การออกแบบอย่างมีประสิทธิภาพผ่านการใช้ Canva Education จากนั้นสิ่งที่จะดำเนินการต่อไป คือ จะจัดอบรมพัฒนาครู เกี่ยวกับการใช้งาน Canva สำหรับการศึกษา โดยมุ่งเน้นการใช้เครื่องมือให้เกิดการสร้างสื่ออย่างมีประสิทธิภาพ และการใช้ AI อย่างสร้างสรรค์และลดภาระงานของครู พร้อมคอร์สเรียนพัฒนาทักษะการออกแบบเชิงสร้างสรรค์สำหรับนักเรียน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพในอนาคตของนักเรียน และตอบโจทย์การศึกษาในยุคปัจจุบันได้อย่างดียิ่ง