การประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 36/2568

 

วันที่ 30 กันยายน 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 36/2568 โดยเน้นย้ำข้อสั่งการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. เพื่อให้ผู้บริหารและบุคลากรดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกล่าวอำลาข้าราชการและบุคลากรของ สพฐ. เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการ โดยมี นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการ กพฐ. นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. นางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. รวมถึงผู้อำนวยการเขตตรวจราชการ ผู้อำนวยการสำนักต่างๆ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบ Zoom meeting
.
โอกาสนี้ สพฐ. ได้จัดพิธีส่งมอบหน้าที่ราชการ ระหว่าง ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. ในนามผู้ส่งมอบ กับนางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. ในนามผู้รับมอบ เพื่อให้การดำเนินงานต่อเนื่องอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยในปีนี้ มีผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. ที่ครบกำหนดเกษียณอายุราชการ จำนวน 3 คน ได้แก่ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. และนายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการ กพฐ. ขณะที่นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ และนางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ กพฐ. ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
.
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวว่า วันที่ 30 กันยายน เป็นวันสิ้นปีงบประมาณและเป็นวันที่ข้าราชการอายุครบ 60 ปี ต้องเกษียณอายุราชการ ในปีนี้ สพฐ. มีผู้เกษียณเป็น ผอ.เขตพื้นที่ 24 คน และข้าราชการจากส่วนกลาง 28 คน ถือเป็นผู้ที่ได้สร้างคุณงามความดีแก่ สพฐ. ทุกคนได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ตนเองก็พยายามทำหน้าที่เป็นคนกลางประสานระหว่างรัฐบาล กระทรวงฯ เขตพื้นที่ และสถานศึกษา เพื่อให้งานเดินไปตามนโยบายของรัฐบาล สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติได้เป็นอย่างดี
.
ทั้งนี้ ตลอด 10 ปีใน สพฐ. โดย 2 ปีที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กพฐ. ตนซาบซึ้งในความร่วมแรงร่วมใจของทุกคน เห็นความเปลี่ยนแปลงและความเจริญเติบโตชัดเจน แม้แต่ละคนจะมีหน้าที่ต่างกัน แต่ขอให้ทำหน้าที่ตรงนั้นให้ดีที่สุด สิ่งสำคัญคือการทำงานสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล กระทรวงฯ และ สพฐ. ระหว่างทางอาจมีปัญหาหรืออุปสรรคบ้าง แต่เชื่อมั่นว่าทุกคนจะมีวิธีแก้ไขและผ่านพ้นไปได้ สำหรับความสำเร็จหลายอย่างก็สะท้อนชัด เช่น รางวัล ITA ซึ่งเราได้รับการประเมินในระดับสูงเป็นอันดับ 1 ของกระทรวง ถือเป็นผลงานความสำเร็จของพวกเราทุกคน และผลการสอบ PISA ที่ท่านรองฯเกศทิพย์ ศุภวานิช เป็นผู้ขับเคลื่อนหลักมาตลอด ก็เชื่อมั่นว่าจะออกมาในเชิงบวกและดีขึ้นอย่างแน่นอน เพราะทุกฝ่ายร่วมกันขับเคลื่อนจริงจัง
.
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า ในเรื่องของคุณภาพการศึกษาโดยรวม แม้สังคมอาจมองว่าบางเรื่องต้องปรับปรุง แต่เชื่อว่า “ครอบครัว สพฐ.” จะก้าวต่อไปได้ ขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลองค์กรนี้ เหมือนที่ผู้บริหารหลายท่านฝากไว้ ผมเองเป็นลูกหม้อของ สพฐ. เติบโตและเกษียณที่นี่ มีความรัก ศรัทธา และเชื่อมั่นในองค์กร ถึงเกษียณก็ยังพร้อมเป็นกองเชียร์เฝ้ามองความก้าวหน้าของน้อง ๆ และขอให้องค์กรนี้คงอยู่คู่กระทรวงศึกษาธิการต่อไป
.
“ขอฝากไว้ว่า สิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนการศึกษาให้เกิดประสิทธิผล คือการทำงานประสานร่วมกับทุกหน่วยในกระทรวง สร้างเครือข่ายที่ดีต่อกัน แล้วความสำเร็จและความภาคภูมิใจจะเกิดขึ้นกับทุกคน สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนมีกำลังใจ มุ่งมั่นพัฒนาการศึกษาของชาติ ผมจะยังสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเสมอ ขอบคุณทีมรองเลขาฯ ผู้ช่วยฯ ที่ปรึกษา ผู้ตรวจราชการ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่ 245 เขต บุคลากร สพฐ. ทั้งส่วนกลางและเขตพื้นที่ ตลอดจนผู้บริหารและครูทุกคน ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุขสืบต่อไป” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว


ข่าวโดย : สุชัญญา ชมเทศ

ที่มา >>>“ธนุ” ส่งมอบงานผู้บริหาร สพฐ. รุ่นต่อไป ฝากฝัง 245 เขตพื้นที่ ยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง – สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน<<<

การประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 35/2568

วันที่ 23 กันยายน 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 35/2568 โดยเน้นย้ำข้อสั่งการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. เพื่อให้ผู้บริหารและบุคลากรดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วน และติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานที่ได้สั่งการไปแล้ว โดยมี นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการ กพฐ. นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. รวมถึงผู้อำนวยการเขตตรวจราชการ ผู้อำนวยการสำนักต่างๆ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบ Zoom meeting
.
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวว่า วันนี้ในที่ประชุมได้หารือหลายประเด็นที่สำคัญ อาทิ การเช่าใช้อุปกรณ์การเรียนการสอนสำหรับครูและนักเรียน หรือโครงการ Anywhere Anytime ล่าสุดมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก ซึ่ง สพฐ. ได้มอบอำนาจให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 118 เขต เป็นผู้ดำเนินการ เพื่อความสะดวก คล่องตัว ลดภาระครูและบุคลากรฯ ตรงตามนโยบายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ที่ต้องการให้ทุกหน่วยช่วยกันลดภาระครู อีกทั้งการกระจายให้เขตพื้นที่ดำเนินการ จะทำให้การดูแล การซ่อมบำรุงต่างๆ ทำได้รวดเร็ว ไม่เสียเวลาและประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งปัจจุบันทั้ง 118 เขต ยืนยันว่าสามารถดำเนินการได้ตามเวลาที่กำหนด คือภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ ขอให้มั่นใจว่านักเรียนและครูของเราจะได้เข้าถึงสื่อและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาและลดความเหลื่อมล้ำ เป็นไปตามเจตนารมณ์ของนโยบาย Anywhere Anytime ได้เป็นอย่างดี
.
เรื่องต่อมาที่ได้เน้นย้ำในที่ประชุม คือ การบริหารงบประมาณที่เป็นงบลงทุนให้เสร็จสิ้นเรียบร้อยภายในปีงบประมาณนี้ ซึ่งตาม พ.ร.บ. กำหนดให้ใช้ได้ไม่เกิน 2 ปีงบประมาณ เป็นที่น่ายินดีว่า จากการติดตามอย่างเข้มข้นทุกสัปดาห์ ทำให้มีงบที่มีแนวโน้มเสี่ยงจะถูกพับไป เหลือเพียง 3-4 ล้านบาท จากเดิมที่เคยสูงถึง 4–500 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขน้อยที่สุดตั้งแต่ใช้ พ.ร.บ.ฉบับใหม่นี้ แสดงถึงการกำกับติดตามอย่างใกล้ชิดไปยังโรงเรียนและผู้บริหารที่ได้ผลดีมาก และจะนำไปปฏิบัติในปีงบประมาณต่อๆ ไป
.
“เรื่องสุดท้าย คือ การรับมือสถานการณ์อุทกภัยและพายุ “รากาซา” ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนว่าพายุดังกล่าวได้ทวีกำลังแรงและอาจส่งผลกระทบกับโรงเรียนในสังกัด สพฐ. จึงได้กำชับให้ทุกโรงเรียนมีแผนป้องกัน เตรียมพร้อมรองรับการอพยพ การดูแลอาคารสถานที่ และป้องกันทรัพย์สินทางราชการ โดยให้ความสำคัญกับการดูแลครูและนักเรียนให้ปลอดภัยสูงสุด หากน้ำท่วมหรือถนนขาดให้ปิดโรงเรียนได้เพื่อความปลอดภัย หลังพายุผ่านก็ให้เร่งฟื้นฟูโดยเร็ว และขอขอบคุณรัฐบาลที่ได้อนุมัติงบกลางช่วยซ่อมแซมโรงเรียนที่เสียหายเพื่อสามารถเปิดเรียนได้ตามปกติต่อไป” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว

ข่าวโดย : สุชัญญา ชมเทศ

ที่มา >>>สพฐ. มั่นใจ 118 เขตพื้นที่ เช่าใช้อุปกรณ์เทคฯถึงมือนักเรียนและครู พร้อมสั่งการรับมืออุทกภัยพายุ “รากาซา” – สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน<<<

การประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 7/2568


วันที่ 17 กันยายน 2568 ศาสตราจารย์บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ ประธานกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ประธาน กพฐ.) เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 7/2568 ซึ่งมีว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) พร้อมด้วย นางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. เข้าร่วมการ โดยมีคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และผู้บริหารสำนักต่างๆ ของ สพฐ. เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และร่วมประชุมออนไลน์ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Zoom Meeting)

.

โดยก่อนเริ่มการประชุม ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มาพบปะกับคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อมอบนโยบายในการปฏิบัติงาน และเน้นย้ำว่าไม่นำการเมืองเข้ามาแทรกแซงในการศึกษา เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของประเทศให้เจริญก้าวหน้าเทียบเท่าระดับสากลได้อย่างแท้จริง

.

จากนั้น ในที่ประชุมได้มีการหารือข้อราชการและติดตามความคืบหน้าในการดำเนินงานด้านการศึกษาของ สพฐ. โดยมีประเด็นหารือที่น่าสนใจ อาทิ รายงานความก้าวหน้าการใช้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2568 สำหรับเด็กอายุ 3-6 ปี และหลักสูตรการศึกษาประถมศึกษาตอนต้น (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3) พุทธศักราช 2568, ประกาศสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่อง แนวทางการนำผลการประเมินตามกรอบมาตรฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษที่เป็นสากล (Common European Framework of Reference for Languages : CEFR) ไปใช้ในสถานศึกษา และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับคุณภาพการศึกษา โอกาส และการลดความเหลื่อมล้ำ เป็นต้น

ข่าวโดย : ตรีญาภรณ์ แท่นชัยกุล

ที่มา >>>เลขาธิการ กพฐ. ร่วมประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 7/2568 – สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน<<<

การประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 34/2568

วันที่ 16 กันยายน 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 34/2568 โดยเน้นย้ำข้อสั่งการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. เพื่อให้ผู้บริหารและบุคลากรดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วน และติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานที่ได้สั่งการไปแล้ว โดยมี นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการ กพฐ. นางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. รวมถึงผู้อำนวยการเขตตรวจราชการ ผู้อำนวยการสำนักต่างๆ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบ Zoom meeting
.
ภายหลังการประชุม ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. ได้มอบหมาย นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. แถลงผลการประชุมในประเด็นต่างๆ ที่น่าสนใจ เรื่องแรก คือ การติดตามความก้าวหน้าในการเช่าใช้อุปกรณ์การเรียนการสอนสำหรับผู้เรียน ในโครงการ Anywhere Anytime ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์โน้ตบุ๊ก โครมบุ๊ก หรือแท็บเล็ต ซึ่งเราได้ติดตามความก้าวหน้าทุกสัปดาห์ โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 118 เขต ล่าสุดมีสำนักงานเขตพื้นที่ฯ 3 แห่งที่ได้ดำเนินการลงนามในสัญญาเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ สพป.เพชรบูรณ์ เขต 3, สพป.นครสวรรค์ เขต 2, สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 และเหลืออีก 76 เขตที่ยังอยู่ในระหว่างร่างขอบเขตงาน (TOR) ในวันนี้เราก็ได้มีการประชุมชี้แจงเพื่อติดตามเร่งรัดในการดำเนินการให้แล้วเสร็จทันปีงบประมาณ 2568 หรือภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ เพื่อให้กระบวนการเช่าใช้อุปกรณ์เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้เรียนทั่วประเทศ โดยยังคงรักษาวินัยทางการเงินการคลังอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ
.
“งบสำหรับเช่าใช้อุปกรณ์ของโครงการ Anywhere Anytime เป็นงบประมาณที่มีความชัดเจน และได้แจ้งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไปดำเนินการเช่าตาม TOR ของแต่ละเขตพื้นที่ฯ โดยไม่ได้มีการกำหนดว่าจะต้องเช่าซื้อจากบริษัทใด โดยให้เขตพื้นที่ฯ ดำเนินการหาผู้รับจ้างได้ตามบริบทของแต่ละพื้นที่และไม่มีการกำหนดคุณสมบัติหรือสเปกเครื่องแบบเฉพาะเจาะจง เพราะถือว่าเทคโนโลยีเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หากเรากำหนดไว้ตอนตั้งของบเมื่อถึงตอนจะจัดซื้อก็อาจล้าสมัยไปแล้ว เพราะฉะนั้นการเช่าซื้อให้เกิดความทันสมัยจะต้องเปิดโอกาสให้กับโรงเรียนและเขตพื้นที่ฯ เลือกผู้รับจ้างได้เอง ดังนั้นขอให้ไม่ต้องกังวลต่อการเช่าซื้อในครั้งนี้ เพราะเป็นงบประมาณถูกต้องตามกฎหมาย จึงขอให้ดำเนินการตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างอย่างถูกต้องเท่านั้น ส่วนการดำเนินการในปี 2569 ทางสำนักงบประมาณไม่ได้มีการเพิ่มงบประมาณให้กับ สพฐ. ตามที่ได้ขอไปเพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ดังนั้นในปีการศึกษาหน้าจึงยังใช้กับพื้นที่เดิมคือระดับชั้นมัธยมปลาย ม.4-6 ในกลุ่ม 118 เขตพื้นที่ฯเดียวกันกับในปีนี้ครับ” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว
.
และอีกเรื่องที่น่าสนใจ คือ สพฐ. ได้ประกาศแนวทางการนำผลการประเมินตามกรอบมาตรฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษที่เป็นสากล (Common European Framework of Reference for Languages : CEFR) ไปใช้ในสถานศึกษา ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้ออกประกาศ เรื่อง นโยบายการปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ พ.ศ. 2557 ที่กำหนดให้ใช้กรอบมาตรฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษที่เป็นสากล (CEFR) เป็นกรอบความคิดหลักในการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษของประเทศไทย ทั้งในการออกแบบหลักสูตร การพัฒนาการเรียนการสอน การทดสอบ การวัดผล การพัฒนาครู รวมถึงการกำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ โดย สพฐ. ได้ประกาศแนวทางเพื่อนำไปใช้ในการวัดและประเมินผล และพัฒนาการเรียนรู้ ในสถานศึกษาต่างๆ ได้แก่ สถานศึกษาที่ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551, สถานศึกษานำร่องในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา, สถานศึกษาที่ใช้หลักสูตรการศึกษาประถมศึกษาตอนต้น (ชั้น ป.1-3) พ.ศ. 2568 และโรงเรียนหรือสถานศึกษานำร่องที่ใช้ระบบธนาคารหน่วยกิต ซึ่งจะช่วยพัฒนาการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของเด็กไทยสู่มาตรฐานสากลต่อไป

ข่าวโดย : สุชัญญา ชมเทศ

ที่มา >>>สพฐ. ยืนยัน งบเช่าใช้อุปกรณ์การเรียนถูกต้อง โปร่งใส 118 เขตพื้นที่ฯ เลือกได้อิสระตามบริบท – สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน<<<