การประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 29/2568


สพฐ. เร่งฟื้นฟูโรงเรียนน้ำท่วม เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบชายแดน พร้อมย้ำระบบดูแลนักเรียน ป้องกันเด็กหาย
.
วันที่ 5 สิงหาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 29/2568 โดยเน้นย้ำข้อสั่งการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. เพื่อให้ผู้บริหารและบุคลากรดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วน และติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานที่ได้สั่งการไปแล้ว โดยมีผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. ได้แก่ นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. นางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. รวมถึงผู้อำนวยการเขตตรวจราชการ ผู้อำนวยการสำนักต่างๆ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบ Zoom meeting 
.
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวว่า วันนี้ในที่ประชุมได้หารือหลายประเด็นที่สำคัญ อันดับแรกคือเรื่องสถานการณ์ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เน้นย้ำมาที่ สพฐ. ว่าสถานศึกษาที่ใช้เป็นที่พักพิงของประชาชนในพื้นที่ ที่ฝ่ายความมั่นคงแจ้งว่ายังไม่สามารถอพยพให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าวกลับไปที่พักอาศัยได้ เราต้องเปิดสถานศึกษาให้เป็นที่พักพิงต่อไปจนกว่าฝ่ายความมั่นคงจะยืนยันว่าสถานการณ์มีความปลอดภัยสูงสุดจึงสามารถกลับไปได้ ดังนั้น หากทางจังหวัดหรือฝ่ายความมั่นคงขอความร่วมมือในการใช้สถานศึกษาเป็นที่พักพิงของพี่น้องประชาชน เราก็จะอำนวยความสะดวกให้ โดยยึดหลักความปลอดภัยของทุกคนเป็นสำคัญ พร้อมทั้งดูแลทางด้านความรู้สึก โดยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และนักจิตวิทยา เข้ามาดูแลเรื่องขวัญและกำลังใจของพี่น้องประชาชน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ส่วนเรื่องการจัดการเรียนการสอนให้กับนักเรียน ได้ให้สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ. ออกแบบวิธีการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสม โดยจะนำรูปแบบการสอนที่ใช้ในช่วงสถานการณ์โควิดนำกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้นักเรียนได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
.
ในส่วนของการฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย(พายุวิภา) เมื่อเร็วๆ นี้ รมว.ศธ. และ สพฐ. รวมถึงผู้บริหารของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่จังหวัดน่านเพื่อตรวจเยี่ยมสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบ พบว่า ปัจจุบันยังมีดินโคลนตกค้างอยู่ในโรงเรียนหลายแห่ง วันนี้ทาง สพฐ. ได้จัดสรรงบประมาณลงไปให้โรงเรียนเหล่านี้เป็นค่าชำระล้างและทำความสะอาดแล้ว เพื่อให้โรงเรียนกลับมาเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติ และขอขอบคุณทางมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า และกระทรวงเกษตรฯ ที่ได้ให้ความร่วมมือส่งเครื่องจักรกลหนัก อาทิ รถขุดดิน รถตักดิน เข้ามาช่วยทำความสะอาดโรงเรียนของเราในพื้นที่ภาคเหนือ ให้สามารถกลับมาเปิดการเรียนการสอนได้อย่างรวดเร็ว
.
ประเด็นต่อมา คือเรื่องของนักเรียนหายที่จังหวัดเชียงใหม่ ในเรื่องนี้ รมว.ศธ. และ สพฐ. ได้รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวานแล้ว โดยทาง รมว.ศธ. มีความห่วงใยและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าตอนนี้ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือกัน จนพบตัวน้องๆ ทั้ง 3 คนเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงและสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยคำนึงถึงสภาพจิตใจนักเรียนเป็นสำคัญ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ทั้งนี้ ได้มีการประชุมร่วมกับโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ทั่วประเทศ เพื่อเน้นย้ำแนวทางการดำเนินการและระบบการดูแลนักเรียนในโรงเรียนประจำพักนอน ให้เด็กมีความสุข มีความอบอุ่นในหอพักนอนโรงเรียนเสมือนอยู่ที่บ้าน และให้คุณครูที่อยู่ประจำหอพัก ดูแลนักเรียนทุกคนด้วยความรัก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเน้นย้ำมาตลอด  
.
“อีกเรื่องที่สำคัญ คือการเบิกจ่ายงบประมาณในปี 2568 จากข้อมูล ณ วันที่ 4 สิงหาคม 2568 สพฐ. ได้เบิกจ่ายงบประมาณจนถึงไตรมาสที่ 4 เป็นจำนวน 231,744 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 88.48 ถือว่าสามารถเบิกจ่ายได้เป็นไปตามเป้าหมาย ในขณะเดียวกันก็ได้กำชับไปยังเขตพื้นที่และโรงเรียนต่าง ๆ ให้เร่งรัดการเบิกจ่าย และการก่อหนี้ผูกพัน ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน เพื่อรักษาวินัยทางการเงินการคลังต่อไป” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว


     

   

     

           


การประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 28/2568

 


สพฐ. กำชับไม่ให้ครูปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยง เร่งระดมกำลังรับมือชายแดน-อุทกภัย เล็งฟื้นฟูโรงเรียน เยียวยานักเรียน-ครู พร้อมปรับระบบเรียน 5 รูปแบบ 

.

วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 28/2568 โดยเน้นย้ำข้อสั่งการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. เพื่อให้ผู้บริหารและบุคลากรดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วน และติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานที่ได้สั่งการไปแล้ว โดยมีผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. ได้แก่ นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการ กพฐ. นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. นางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. รวมถึงผู้อำนวยการเขตตรวจราชการ ผู้อำนวยการสำนักต่างๆ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบ Zoom meeting โดยก่อนเริ่มการประชุม เลขาธิการ กพฐ. ได้นำคณะผู้บริหารและบุคลากร ร่วมยืนไว้อาลัยให้แก่นักเรียนที่สูญเสียจากเหตุการณ์ปะทะชายแดน ในโอกาสนี้ด้วย

.

ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวว่า วันนี้ในที่ประชุมได้หารือหลายประเด็นที่สำคัญ เรื่องแรกคือการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและครูที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา โดยล่าสุดได้รับรายงานว่า โรงเรียนในพื้นที่ชายแดนทั้ง 7 จังหวัดได้ปิดการเรียนการสอนหมดแล้ว จำนวน 914 โรงเรียน จนกว่าฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าสถานการณ์ปลอดภัย จึงจะกลับมาเปิดได้ ซึ่งในพื้นที่รัศมี 30 กม. จากชายแดน ได้ทำการอพยพครู นักเรียน และประชาชนมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงเรียบร้อยหมดแล้ว นอกจากนี้ ผมได้มอบหมายภารกิจให้ผู้บริหาร สพฐ. ทั้งรองเลขาธิการ กพฐ. ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. ที่ปรึกษา และผู้อำนวยการสำนัก แบ่งหน้าที่รับผิดชอบเป็นรายจังหวัด ให้ดูแลในภาพรวมทั้งหมด ตั้งแต่ศูนย์พักพิง/อพยพ เด็กนักเรียน คุณครู และพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน อาทิ รองฯเกศทิพย์ รับผิดชอบจังหวัดสุรินทร์, รองฯพัฒนะ ดูแลจังหวัดอุบลราชธานี, รองฯธีร์ ดูแลจังหวัดตราด, ผู้ช่วยฯภัทริยาวรรณ ดูแลจังหวัดศรีสะเกษ, ผู้ช่วยฯภูธร ดูแลจังหวัดสระแก้ว และ ผอ.สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ดูแลโรงเรียนการศึกษาพิเศษทั้ง 7 จังหวัด ซึ่งมีประมาณ 50 แห่ง 

.

ส่วนสถานการณ์โรงเรียนในพื้นที่ภาคเหนือที่ประสบเหตุอุทกภัยจากพายุวิภา โดยภาพรวมระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว มีโรงเรียนที่ปิดการเรียนการสอนจำนวน 14 แห่ง คาดว่าหากฝนไม่ตกเพิ่มจะสามารถกลับมาเปิดเรียนได้ในสัปดาห์นี้ โดยในวันพรุ่งนี้ (30 กรกฎาคม) ผู้บริหารของ สพฐ. เกือบทั้งหมดจะลงพื้นที่ 2 ส่วน คือ ส่วนหนึ่งไปยังพื้นที่จังหวัดชายแดนที่มีการปะทะ และอีกส่วนไปช่วยพื้นที่ภาคเหนือที่ประสบเหตุอุทกภัย เนื่องจากขณะนี้เราประสบภัย 2 อย่างพร้อมกัน ดังนั้นผู้บริหาร สพฐ. จะลงไปเยี่ยมให้กำลังใจทั้งครู บุคลากร นักเรียน และประชาชน อย่างทั่วถึงกัน พร้อมทั้งเตรียมสิ่งของจำเป็น เช่น มุ้ง หมอน ที่นอน อาหาร เครื่องอุปโภคบริโภคจากส่วนกลาง และจะจัดหาส่วนหนึ่งจากในพื้นที่ โดยจัดให้ตามความต้องการของแต่ละศูนย์ที่ได้สำรวจไว้แล้ว ส่วนในเรื่องการฟื้นฟูโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุพายุวิภาและจากเหตุการณ์ปะทะ เราได้เตรียมงบเหลือจ่ายไว้แล้ว และจะเร่งสำรวจ ฟื้นฟู และซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็ว

.

พร้อมกันนี้ ขอแสดงความเสียใจกับนักเรียนผู้เสียชีวิตจำนวน 5 ราย ซึ่งท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ จะไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพด้วย ขณะที่นักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย ขณะนี้อาการดีขึ้นแล้ว สำหรับจำนวนความเสียหายที่เกิดขึ้น เราได้รายงานไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการทั้งสองท่านได้รับทราบเรียบร้อยแล้ว ซึ่งท่านได้มอบหมาย สพฐ. ดูแลช่วยเหลือนักเรียนและครูที่ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง 

.

“สิ่งที่เราต้องดูแลต่อไป คือ การประคับประคองขวัญกำลังใจของครูและนักเรียน พร้อมทั้งย้ำว่าความปลอดภัยต้องมาเป็นลำดับแรก โดยเฉพาะในพื้นที่ปะทะ สพฐ. ไม่มีนโยบายให้ครูเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ใด ๆ ทั้งสิ้น จึงขอให้ทุกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียน ปฏิบัติตามข้อสั่งการจากฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่อย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงที่อาจกระทบต่อครูและบุคลากรทุกคน" เลขาธิการ กพฐ. กล่าว

.

ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวต่อไปว่า อีกเรื่องที่สำคัญ ต้องขอขอบคุณและชื่นชม “น้องคิม” เด็กชายธนากร ศรแก้ว นักเรียนชั้น ม.2/3 โรงเรียนกันทรลักษ์วิทยา จ.ศรีสะเกษ ในวันที่เกิดเหตุลูกกระสุนปืนใหญ่ตกที่ร้านสะดวกซื้อ น้องคิมได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ถือว่ามีความกล้าหาญ เป็นแบบอย่างที่ดี สมควรแก่การชื่นชม สพฐ. จะมอบเกียรติบัตรให้น้องคิมในฐานะผู้มีความเสียสละและช่วยเหลือผู้อื่นในยามทุกข์ยาก และเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ทุกคนในสังคมต่อไป

.

"ส่วนเรื่องการสอบครูผู้ช่วย หากเหตุการณ์ยังไม่สงบในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน จะเลื่อนการสอบออกไปเฉพาะพื้นที่นั้น ให้จังหวัดอื่นสอบตามปกติ จะเลื่อนทั้งประเทศไม่ได้ โดยเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจะมีการออกข้อสอบใหม่ ไม่ใช้ข้อสอบเดิม ส่วนการเรียนการสอน หากสถานการณ์ยืดเยื้อ เราจะใช้การเรียนออนไลน์ร่วมกับรูปแบบอื่นตามความเหมาะสม โดยให้สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ออกแบบรูปแบบการเรียนการสอน และเมื่อวานนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ ทรงมีพระเมตตาห่วงใยเรื่องการเรียนของนักเรียนด้วย โดย สพฐ. ได้น้อมนำกระแสรับสั่งและจะนำมาปรับใช้ในระบบการเรียนการสอน ทั้ง 5 รูปแบบ (On-air, Online, On-Hand, On-Demand, และ Onsite) ใช้ผสมกันตามบริบทต่อไป" เลขาธิการ กพฐ. กล่าว


    




ข่าวโดย : ยศุเนตร ปานธรรม

ที่มา >>>สพฐ. ยินดีผู้บริหาร ศธ. ชุดใหม่ นำทัพยกระดับการศึกษาสู่สากล เน้นย้ำความปลอดภัยโรงเรียนแนวชายแดน พร้อมใช้ระบบสำนักงานดิจิทัลเต็มรูปแบบ 8 ก.ค.นี้ – OBEC<<<

การประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 27/2568

สพฐ. สั่งการด่วนรับมือ "พายุวิภา" กำชับเขตพื้นที่เฝ้าระวัง ดูแลนักเรียน-ครูปลอดภัย พร้อมเตรียมลดภาระครู 52 รายการ ภายในสัปดาห์นี้

.

วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 27/2568 โดยเน้นย้ำข้อสั่งการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. เพื่อให้ผู้บริหารและบุคลากรดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วน และติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานที่ได้สั่งการไปแล้ว โดยมีผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. ได้แก่ นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. นางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. รวมถึงผู้อำนวยการเขตตรวจราชการ ผู้อำนวยการสำนักต่างๆ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบ Zoom meeting

.

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า วันนี้มีเรื่องสำคัญที่เราได้หารือกันในที่ประชุม นั่นคือการเฝ้าระวังและรับมือพายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา (WIPHA)” ที่คาดว่าจะเคลื่อนผ่านจังหวัดน่าน เชียงราย และอุตรดิตถ์ ในช่วงสัปดาห์นี้ ซึ่ง ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีความห่วงใยนักเรียนและครูของเรา และฝากเน้นย้ำให้ดูแลความปลอดภัยของทุกคน โดยเมื่อวานนี้ (21 ก.ค. 2568) สพฐ. ได้ประชุมกับ ผอ.เขตพื้นที่ และสั่งการให้เขตพื้นที่ทางภาคเหนือและอีสานตอนบนจัดทำแผนเผชิญเหตุพร้อมเตรียมการรับมือพายุ เช่น เคลื่อนย้ายทรัพย์สิน หนังสือ อุปกรณ์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ต่างๆ ขึ้นที่สูง ตัดแต่งต้นไม้รอบโรงเรียน หากน้ำท่วมโรงเรียนให้ประสานการไฟฟ้าทำการตัดหม้อแปลงไฟฟ้า เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องไฟดูด ไฟเกิน ที่สำคัญหากน้ำท่วมเข้าโรงเรียน ให้สั่งปิดโรงเรียนทันที เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและครูทุกคน รวมถึงประสานกับ ปภ.จังหวัด ในการเตรียมแผนช่วยเหลือด้านอาหารหากนักเรียนหรือครูประสบภัยติดอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม และเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ต้องสำรวจความเสียหายด้านอาคารสถานที่ อุปกรณ์ไฟฟ้า หนังสือ สื่อการเรียนต่างๆ เพื่อปรับปรุงซ่อมแซมให้กลับมาเรียนได้ตามปกติ

.

ประเด็นต่อมาคือเรื่องการลดภาระครูฯ ซึ่งผมได้มอบหมาย นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. กำหนดรายการเรื่องหรือโครงการที่ไม่ต้องปฏิบัติแล้ว โดยจะออกเป็นประกาศ สพฐ. เลยว่า รายการต่อไปนี้ 52 รายการ จากเดิม 114 รายการ ไม่ต้องรายงานมาที่ สพฐ. อีกต่อไปแล้ว ทั้งโรงเรียนขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ มีผลทันทีภายในสัปดาห์นี้ เพื่อเป็นการลดภาระครูอย่างเป็นรูปธรรมจับต้องได้ ส่วนการประเมิน ITA ได้ลดตัวชี้วัดจาก 28 เหลือ 17 ตัว และกำหนดให้ประเมินเฉพาะโรงเรียนมัธยมและโรงเรียนคุณภาพเท่านั้น ซึ่งทำให้โรงเรียนที่ต้องประเมินเหลือเพียงประมาณ 1,000 กว่าแห่ง จากทั้งหมด 29,005 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ สพฐ. จะประสานกับสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อขอลดตัวชี้วัดเพิ่มเติมในอนาคต

.

“การลดภาระครูฯ เป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ รมว.ศธ. ให้ความสำคัญ และตั้งใจที่จะลดภาระงานให้ครูทั่วประเทศอย่างแท้จริง เพื่อคืนครูสู่ห้องเรียน ให้ครูได้เต็มที่กับการสอน ซึ่งทาง สพฐ. ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยจะยังคงมอบหมายให้ ผอ.สำนักต่าง ๆ พิจารณาโครงการที่สามารถลดหรืองดได้เพิ่มเติม ซึ่งเบื้องต้นได้ลดแล้ว 52 โครงการ และจะทยอยลดอีกอย่างต่อเนื่อง พร้อมประกาศอย่างเป็นทางการให้ครูทั่วประเทศรับทราบต่อไป” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว








ข่าวโดย : ยศุเนตร ปานธรรม

ที่มา >>>สพฐ. ยินดีผู้บริหาร ศธ. ชุดใหม่ นำทัพยกระดับการศึกษาสู่สากล เน้นย้ำความปลอดภัยโรงเรียนแนวชายแดน พร้อมใช้ระบบสำนักงานดิจิทัลเต็มรูปแบบ 8 ก.ค.นี้ – OBEC<<<


การประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 26/2568

สพฐ. ผนึกกำลังช่วยชาวสวนลำไย ดึงโครงการอาหารกลางวันหนุนผลผลิตเกษตรกรทั่วไทย พร้อมเดินหน้าลดภาระครู เร่งเติมเต็มตำแหน่งว่างให้ครบถ้วน
.
วันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 26/2568 โดยเน้นย้ำข้อสั่งการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. เพื่อให้ผู้บริหารและบุคลากรดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วน และติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานที่ได้สั่งการไปแล้ว โดยมีผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. ได้แก่ นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. นางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. รวมถึงผู้อำนวยการเขตตรวจราชการ ผู้อำนวยการสำนักต่างๆ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบ Zoom meeting
.
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า วันนี้มีเรื่องสำคัญที่เราได้หารือกันในที่ประชุม นั่นคือเรื่องการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวสวนลำไยที่ประสบปัญหาลำไยล้นตลาดอยู่ในขณะนี้ โดย สพฐ. มีโครงการอาหารกลางวัน ซึ่งในโปรแกรม “Thai School Lunch” กำหนดว่าในทุกมื้อของอาหารกลางวันนักเรียนต้องมีผลไม้ด้วย เราก็จะใช้โครงการนี้เข้าไปช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ซึ่งตอนนี้เป็นที่น่ายินดีว่า โรงเรียนในสังกัด สพฐ. ทั่วประเทศ มีความประสงค์ที่จะช่วยพี่น้องเกษตรกรชาวสวนลำไย รวมกันได้ถึง 80 - 90 ตันแล้ว เป็นการสนับสนุนเพื่อให้พี่น้องเกษตรกรอยู่ได้ สร้างรายได้ให้เกษตรกร และส่งเสริมการขายสินค้าในประเทศของพวกเราด้วย นอกจากนี้ ในอนาคตหากมีสินค้าทางการเกษตรอื่นๆ เช่น ข้าว ผัก หรือผลไม้ต่างๆ ที่มีราคาตกต่ำหรือล้นตลาด ทาง สพฐ. เรามีโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนปกติ ในโรงเรียนการศึกษาพิเศษซึ่งจัดอาหาร 3 มื้อ รวมถึงโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยที่มีเด็กพักอาศัยอยู่ประจำ โรงเรียนเหล่านี้จะช่วยเหลือสนับสนุนพี่น้องเกษตรกรทุกกลุ่มอาชีพได้ เพราะการศึกษาต้องอยู่ควบคู่กับประชาชน หากประชาชนเดือดร้อน พี่น้องเกษตรกรเดือดร้อน เราก็พร้อมที่จะดูแลช่วยเหลือกันในส่วนที่เราทำได้อย่างเต็มที่ครับ
.
ต่อมาคือเรื่องการลดภาระครู ที่ สพฐ. ได้ดำเนินการอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์) ได้เน้นย้ำกำชับให้ความสำคัญ วันนี้ สพฐ. ได้หารือกันถึงแนวทางที่จะลดภาระครูซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสังกัดเรา โดยมอบหมายให้ นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. กำหนดรายการและจะออกเป็นประกาศ สพฐ. เลยว่า เรื่องใดหรือโครงการไหนที่ไม่ต้องปฏิบัติอีกต่อไปแล้ว เพื่อลดภาระครูให้เห็นผลอย่างชัดเจน ส่วนข่าวที่จะนำข้าราชการครูมาเปลี่ยนเป็นสายสนับสนุนนั้น เป็นข้อเสนอที่จะต้องอาศัยความร่วมมือกับหลายภาคส่วนในกระทรวงศึกษาธิการ โดยตำแหน่งที่จะนำมาเปลี่ยนนั้นไม่ใช่ตำแหน่งครูที่ปฏิบัติงานอยู่ในปัจจุบัน แต่เป็นการนำเอาตำแหน่งว่างจากการเกษียณอายุราชการในสถานศึกษาบางแห่งที่เกินเกณฑ์มาเปลี่ยนเป็นข้าราชการ 38ค(2) เพื่อให้มีบุคลากรสายสนับสนุนปฏิบัติงานต่างๆ เพิ่มยิ่งขึ้น เช่น งานธุรการ การเงินและพัสดุ เพื่อลดภาระงานครูและเพิ่มเวลาในการสอนให้แก่ครูได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าวจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนและระเบียบอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบหรือความเดือดร้อนกับครูในระบบ
.
สำหรับบุคลากรที่ปฏิบัติงานธุรการโรงเรียนนั้น ขณะนี้ สพฐ. ดำเนินการยื่นข้อเสนอไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อขอปรับให้เป็นลูกจ้างชั่วคราวเรียบร้อยแล้ว หากได้รับการอนุมัติ ธุรการโรงเรียนจะได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้นจากเดิม โดยกลุ่มที่ได้รับอยู่ 9,000 บาท จะได้ปรับเป็นเจ้าพนักงานธุรการ และมีค่าจ้างเพิ่มเป็น 13,920 บาท ส่วนกลุ่มที่ได้รับอยู่ 15,000 บาท จะได้ปรับเป็นนักจัดการงานทั่วไปและรับค่าจ้างเพิ่มขึ้นเป็น 18,500 บาท รวมถึงได้รับสิทธิวันลา เงินสมทบประกันสังคม และสวัสดิการต่างๆ ในฐานะบุคลากรของรัฐตามระเบียบกระทรวงการคลัง แต่เนื่องจาก สพฐ. มีโรงเรียนกว่า 29,000 โรง ทำให้จำนวนธุรการที่มีอยู่ไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องขอให้ธุรการกลุ่มที่ได้เป็นนักจัดการงานทั่วไปดูแล 2 โรงเรียนที่อยู่ใกล้กัน ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าจะไม่ให้ธุรการโรงเรียนต้องเดินทางไกลหรือสลับโรงเรียนบ่อย ๆ เพื่อไม่เป็นภาระเพิ่มเติม ทั้งในเรื่องเวลาและค่าใช้จ่าย
.
“อีกเรื่องที่สำคัญคือการคัดเลือกบุคคลเข้ารับตำแหน่ง รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา รองผู้บริหารสถานศึกษา และตำแหน่งครูผู้ช่วย ซึ่งตอนนี้ได้เปิดรับสมัครเรียบร้อยแล้ว สำหรับตำแหน่งรอง ผอ.เขตพื้นที่ มีผู้สมัคร 1,304 คน ตำแหน่ง ผอ.โรงเรียน มีผู้สมัคร 598 คน ตำแหน่งรอง ผอ.โรงเรียน มีผู้สมัคร 3,767 คน และตำแหน่งครูผู้ช่วย มีผู้สมัครมากที่สุดถึง 77,053 คน ซึ่งเราจะดำเนินการจ้างสถาบันอุดมศึกษาเป็นผู้จัดสอบ เพื่อความบริสุทธิ์ โปร่งใสและเป็นธรรม และจะดำเนินการบรรจุให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน  หรือก่อนเปิดภาคเรียนที่ 2/2568 เพื่อเติมเต็มตำแหน่งที่ว่างทุกตำแหน่ง ให้สามารถขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาได้อย่างต่อเนื่อง” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว






   

ข่าวโดย : ยศุเนตร ปานธรรม

ที่มา >>>สพฐ. ยินดีผู้บริหาร ศธ. ชุดใหม่ นำทัพยกระดับการศึกษาสู่สากล เน้นย้ำความปลอดภัยโรงเรียนแนวชายแดน พร้อมใช้ระบบสำนักงานดิจิทัลเต็มรูปแบบ 8 ก.ค.นี้ – OBEC<<<

การประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 25/2568


สพฐ. เตรียมขับเคลื่อนนโยบาย รมว.ศธ.-รมช.ศธ. ต่อเนื่อง พร้อมยกเครื่องบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก 

.

วันที่ 8 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 25/2568 โดยเน้นย้ำข้อสั่งการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. เพื่อให้ผู้บริหารและบุคลากรดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วน และติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานที่ได้สั่งการไปแล้ว โดยมีผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. ได้แก่ นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. นางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. รวมถึงผู้อำนวยการเขตตรวจราชการ ผู้อำนวยการสำนักต่างๆ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบ Zoom meeting

.

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า ในโอกาสที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันนี้ ท่านได้กล่าวว่า พร้อมจะเดินหน้าสานต่อนโยบายดี ๆ ของ รมว.ศธ. ท่านเดิม เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูทั่วประเทศ โดยทำงานร่วมกันแบบ “ครอบครัวเดียวกัน” เพื่อขับเคลื่อนการศึกษาอย่างมีพลัง และได้ฝากสิ่งที่ต้องการผลักดันเพิ่มเติม คือ การพัฒนาสวัสดิการและสร้างขวัญกำลังใจครู โดยการลดภาระงาน การปรับเกณฑ์วิทยฐานะและการโยกย้ายให้เป็นธรรม รวมถึงการรับฟังความต้องการจากพื้นที่ต่างๆ อย่างรอบด้าน เพื่อวางนโยบายในระยะเร่งด่วน ระยะกลาง ระยะยาว และการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาฯ ที่เน้นย้ำวิชาประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขอให้ผู้บริหารและบุคลากรของ สพฐ. ติดตามแนวนโยบายซึ่งจะออกอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ เพื่อนำไปขับเคลื่อนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในการยกระดับคุณภาพผู้เรียนอย่างต่อเนื่องต่อไป

.

อีกเรื่องสำคัญที่ได้พูดคุยกันในวันนี้ คือเรื่องการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้สั่งการให้สำนักที่เกี่ยวข้องเตรียมข้อมูลการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กขนาดต่าง ๆ โดยระบุถึงวิธีการบริหารจัดการของแต่ละโรงเรียน การใช้นวัตกรรมการบริหารจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่สังกัด รวมทั้งหารูปแบบ นวัตกรรมการบริหารที่จะทำให้โรงเรียนขนาดเล็กประสบผลสำเร็จ โดยให้แยกตามบริบทของโรงเรียน ขนาดของโรงเรียนและแยกตามภาค พร้อมทั้งปรับคณะทำงานบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กและโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัด สพฐ. ใหม่ โดยมอบหมายให้นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. เป็นประธานคณะทำงาน พร้อมระบุหน้าที่ของคณะทำงานให้ชัดเจน 

.

สำหรับความคืบหน้าของการจ้างอัตราจ้างในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 สพฐ. ได้ดำเนินการขอทำความตกลงพิเศษกับกระทรวงการคลังแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างสำนักงาน ก.พ. นำเสนอเข้าที่ประชุม คปร. เพื่อพิจารณากำหนดจำนวนกรอบอัตรากำลังลูกจ้างชั่วคราว โดยถ้าหากได้รับการอนุมัติให้อัตราจ้างเป็นลูกจ้างชั่วคราวแล้ว เงินเดือนและคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ให้ปฏิบัติตาม ว 1058 ของกระทรวงการคลัง  นอกจากนี้ จะมีการจัดทำหลักสูตรอบรมพัฒนาธุรการโรงเรียนให้ความรู้เกี่ยวกับด้านการบัญชี การเงินและพัสดุ โดยจะเปิดลงทะเบียนและเริ่มการอบรมผ่านระบบออนไลน์ ภายในเดือนสิงหาคม 2568 นี้ เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กต่อไป


 






ข่าวโดย : ยศุเนตร ปานธรรม

ที่มา >>>สพฐ. ยินดีผู้บริหาร ศธ. ชุดใหม่ นำทัพยกระดับการศึกษาสู่สากล เน้นย้ำความปลอดภัยโรงเรียนแนวชายแดน พร้อมใช้ระบบสำนักงานดิจิทัลเต็มรูปแบบ 8 ก.ค.นี้ – OBEC<<<