สพฐ. กำชับไม่ให้ครูปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยง เร่งระดมกำลังรับมือชายแดน-อุทกภัย เล็งฟื้นฟูโรงเรียน เยียวยานักเรียน-ครู พร้อมปรับระบบเรียน 5 รูปแบบ
.
วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 28/2568 โดยเน้นย้ำข้อสั่งการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. เพื่อให้ผู้บริหารและบุคลากรดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วน และติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานที่ได้สั่งการไปแล้ว โดยมีผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. ได้แก่ นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการ กพฐ. นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. นางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. รวมถึงผู้อำนวยการเขตตรวจราชการ ผู้อำนวยการสำนักต่างๆ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบ Zoom meeting โดยก่อนเริ่มการประชุม เลขาธิการ กพฐ. ได้นำคณะผู้บริหารและบุคลากร ร่วมยืนไว้อาลัยให้แก่นักเรียนที่สูญเสียจากเหตุการณ์ปะทะชายแดน ในโอกาสนี้ด้วย
.
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวว่า วันนี้ในที่ประชุมได้หารือหลายประเด็นที่สำคัญ เรื่องแรกคือการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและครูที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา โดยล่าสุดได้รับรายงานว่า โรงเรียนในพื้นที่ชายแดนทั้ง 7 จังหวัดได้ปิดการเรียนการสอนหมดแล้ว จำนวน 914 โรงเรียน จนกว่าฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าสถานการณ์ปลอดภัย จึงจะกลับมาเปิดได้ ซึ่งในพื้นที่รัศมี 30 กม. จากชายแดน ได้ทำการอพยพครู นักเรียน และประชาชนมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงเรียบร้อยหมดแล้ว นอกจากนี้ ผมได้มอบหมายภารกิจให้ผู้บริหาร สพฐ. ทั้งรองเลขาธิการ กพฐ. ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. ที่ปรึกษา และผู้อำนวยการสำนัก แบ่งหน้าที่รับผิดชอบเป็นรายจังหวัด ให้ดูแลในภาพรวมทั้งหมด ตั้งแต่ศูนย์พักพิง/อพยพ เด็กนักเรียน คุณครู และพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน อาทิ รองฯเกศทิพย์ รับผิดชอบจังหวัดสุรินทร์, รองฯพัฒนะ ดูแลจังหวัดอุบลราชธานี, รองฯธีร์ ดูแลจังหวัดตราด, ผู้ช่วยฯภัทริยาวรรณ ดูแลจังหวัดศรีสะเกษ, ผู้ช่วยฯภูธร ดูแลจังหวัดสระแก้ว และ ผอ.สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ดูแลโรงเรียนการศึกษาพิเศษทั้ง 7 จังหวัด ซึ่งมีประมาณ 50 แห่ง
.
ส่วนสถานการณ์โรงเรียนในพื้นที่ภาคเหนือที่ประสบเหตุอุทกภัยจากพายุวิภา โดยภาพรวมระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว มีโรงเรียนที่ปิดการเรียนการสอนจำนวน 14 แห่ง คาดว่าหากฝนไม่ตกเพิ่มจะสามารถกลับมาเปิดเรียนได้ในสัปดาห์นี้ โดยในวันพรุ่งนี้ (30 กรกฎาคม) ผู้บริหารของ สพฐ. เกือบทั้งหมดจะลงพื้นที่ 2 ส่วน คือ ส่วนหนึ่งไปยังพื้นที่จังหวัดชายแดนที่มีการปะทะ และอีกส่วนไปช่วยพื้นที่ภาคเหนือที่ประสบเหตุอุทกภัย เนื่องจากขณะนี้เราประสบภัย 2 อย่างพร้อมกัน ดังนั้นผู้บริหาร สพฐ. จะลงไปเยี่ยมให้กำลังใจทั้งครู บุคลากร นักเรียน และประชาชน อย่างทั่วถึงกัน พร้อมทั้งเตรียมสิ่งของจำเป็น เช่น มุ้ง หมอน ที่นอน อาหาร เครื่องอุปโภคบริโภคจากส่วนกลาง และจะจัดหาส่วนหนึ่งจากในพื้นที่ โดยจัดให้ตามความต้องการของแต่ละศูนย์ที่ได้สำรวจไว้แล้ว ส่วนในเรื่องการฟื้นฟูโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุพายุวิภาและจากเหตุการณ์ปะทะ เราได้เตรียมงบเหลือจ่ายไว้แล้ว และจะเร่งสำรวจ ฟื้นฟู และซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็ว
.
พร้อมกันนี้ ขอแสดงความเสียใจกับนักเรียนผู้เสียชีวิตจำนวน 5 ราย ซึ่งท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ จะไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพด้วย ขณะที่นักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย ขณะนี้อาการดีขึ้นแล้ว สำหรับจำนวนความเสียหายที่เกิดขึ้น เราได้รายงานไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการทั้งสองท่านได้รับทราบเรียบร้อยแล้ว ซึ่งท่านได้มอบหมาย สพฐ. ดูแลช่วยเหลือนักเรียนและครูที่ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง
.
“สิ่งที่เราต้องดูแลต่อไป คือ การประคับประคองขวัญกำลังใจของครูและนักเรียน พร้อมทั้งย้ำว่าความปลอดภัยต้องมาเป็นลำดับแรก โดยเฉพาะในพื้นที่ปะทะ สพฐ. ไม่มีนโยบายให้ครูเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ใด ๆ ทั้งสิ้น จึงขอให้ทุกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียน ปฏิบัติตามข้อสั่งการจากฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่อย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงที่อาจกระทบต่อครูและบุคลากรทุกคน" เลขาธิการ กพฐ. กล่าว
.
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวต่อไปว่า อีกเรื่องที่สำคัญ ต้องขอขอบคุณและชื่นชม “น้องคิม” เด็กชายธนากร ศรแก้ว นักเรียนชั้น ม.2/3 โรงเรียนกันทรลักษ์วิทยา จ.ศรีสะเกษ ในวันที่เกิดเหตุลูกกระสุนปืนใหญ่ตกที่ร้านสะดวกซื้อ น้องคิมได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ถือว่ามีความกล้าหาญ เป็นแบบอย่างที่ดี สมควรแก่การชื่นชม สพฐ. จะมอบเกียรติบัตรให้น้องคิมในฐานะผู้มีความเสียสละและช่วยเหลือผู้อื่นในยามทุกข์ยาก และเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ทุกคนในสังคมต่อไป
.
"ส่วนเรื่องการสอบครูผู้ช่วย หากเหตุการณ์ยังไม่สงบในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน จะเลื่อนการสอบออกไปเฉพาะพื้นที่นั้น ให้จังหวัดอื่นสอบตามปกติ จะเลื่อนทั้งประเทศไม่ได้ โดยเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจะมีการออกข้อสอบใหม่ ไม่ใช้ข้อสอบเดิม ส่วนการเรียนการสอน หากสถานการณ์ยืดเยื้อ เราจะใช้การเรียนออนไลน์ร่วมกับรูปแบบอื่นตามความเหมาะสม โดยให้สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ออกแบบรูปแบบการเรียนการสอน และเมื่อวานนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ ทรงมีพระเมตตาห่วงใยเรื่องการเรียนของนักเรียนด้วย โดย สพฐ. ได้น้อมนำกระแสรับสั่งและจะนำมาปรับใช้ในระบบการเรียนการสอน ทั้ง 5 รูปแบบ (On-air, Online, On-Hand, On-Demand, และ Onsite) ใช้ผสมกันตามบริบทต่อไป" เลขาธิการ กพฐ. กล่าว
ข่าวโดย : ยศุเนตร ปานธรรม