วันที่ 14 ตุลาคม 2568 นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 38/2568 โดยเน้นย้ำข้อสั่งการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. เพื่อให้ผู้บริหารและบุคลากรดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วน พร้อมมอบแนวทางการทำงานที่มีประสิทธิภาพ โดยมี นายพิเชฐร์ วันทอง รองเลขาธิการ กพฐ. นายวิษณุ ทรัพย์สมบัติ รองเลขาธิการ กพฐ. นางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย รองเลขาธิการ สพฐ. รวมถึงผู้อำนวยการเขตตรวจราชการ ผู้อำนวยการสำนักต่างๆ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบ Zoom meeting
นายพิเชฐ กล่าวว่า ประเด็นสำคัญที่ได้พูดคุยกันในที่ประชุมวันนี้ คือเรื่องการนำนโยบายของท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า) ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์) ที่ได้กำชับในหลายเรื่อง ทั้งในเรื่องการลดภาระครู หรือการเสริมสร้างสวัสดิการ เพื่อนำไปสู่การสร้างโอกาสและคุณภาพทางการศึกษา เช่น การให้ครูและบุคลากรฯมีที่พักอาศัยที่ปลอดภัย สะดวก ใกล้โรงเรียน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและสร้างขวัญกำลังใจในการทำงาน เมื่อครูมีความสุขก็จะสามารถสอนเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยขณะนี้เราได้เร่งรัดสำรวจข้อมูลบ้านพักครูเพื่อดำเนินการของบประมาณ และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยภายในเดือนนี้จะมีการลงนามความร่วมมือกับการเคหะแห่งชาติ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพชีวิตครู และขณะนี้ได้หารือกันใกล้จะลงตัวแล้ว โดยจะนำเรื่องนี้เสนอเข้า ครม. เพื่อพิจารณาต่อไป
เรื่องต่อมาคือการบริหารจัดการงบประมาณ ในปีงบฯ 2569 นี้ ซึ่งท่านรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กำชับว่าให้ใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดประโยชน์ ทันเวลา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรวมถึงพัฒนาการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้กำชับให้ทุกสำนักของ สพฐ. และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่ง รีบดำเนินการใช้งบประมาณตามระเบียบราชการโดยเร่งด่วน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ครูและนักเรียนทุกคน รวมถึงเรื่องการบริหารงานบุคคล ซึ่งมีข่าวเกี่ยวกับการโยกย้ายหรือบรรจุแต่งตั้งที่มีการเรียกรับผลประโยชน์ หรือกรณีที่มีจำนวนเด็กนักเรียนเพิ่มขึ้นผิดปกติในบางโรงเรียน เราได้กำชับอีกครั้งว่าต้องดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น หากตรวจพบก็จะดำเนินการตามวินัยอย่างเด็ดขาด เพื่อให้ทุกอย่างเกิดประโยชน์กับเด็ก ครอบครัว คุณครูและโรงเรียนอย่างแท้จริง
อีกประเด็นหนึ่งคือเรื่องการเตรียมพร้อมให้ผู้บริหารตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด เช่น ผู้อำนวยการหรือรองผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ จะมีการอบรมก่อนบรรจุแต่งตั้ง เพื่อให้ผู้บริหารเหล่านี้ได้เรียนรู้ พัฒนาศักยภาพ และสมรรถนะต่างๆ ที่จะสามารถนำไปพัฒนางาน เป็นผู้นำในการขับเคลื่อนงานในพื้นที่การศึกษา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งรัดดำเนินการ รวมถึงตำแหน่งผู้บริหารโรงเรียนและรองผู้บริหารโรงเรียนที่ต้องเข้ารับการพัฒนาเช่นเดียวกัน โดยเราได้วางแผนและเตรียมการไว้พอสมควร ตอนนี้ก็อบรมใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว โรงเรียนที่รอผู้บริหารก็จะได้มีผู้บริหารมาขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. ที่เน้นการสร้างโอกาส การสร้างคุณภาพการศึกษา การพัฒนาครู และดูแลผู้ที่เกี่ยวข้องให้ดีที่สุด พร้อมกันนี้ ตนได้กำชับและขอความร่วมมือจากหน่วยงานในส่วนกลางว่าหากมีสิ่งใดที่สามารถช่วยขับเคลื่อนนโยบายและเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ขอให้ช่วยกันเสนอประเด็นท้าทาย แนวทางแก้ไข และข้อเสนอเพื่อการปรับปรุงได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเร่งด่วน ระยะกลาง หรือระยะยาว เพื่อช่วยกันเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการศึกษาให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น โดย สพฐ. จะเป็นผู้ที่แก้ปัญหาให้ หรือหากต้องส่งเรื่องไปยัง รมว.ศธ. สำนักงาน ก.ค.ศ. หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สพฐ. ก็จะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อม เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนต่อไป
“สุดท้ายนี้ ขอแสดงความยินดีกับตัวแทนนักเรียนไทยที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ โดยคว้า 25 รางวัล ในการแข่งขันคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์นานาชาติ (International Mathematics and Science Olympiad (IMSO) 2025) ณ รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 5-9 ตุลาคม 2568 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจาก 23 ประเทศ รวม 357 คน โดยมีนักเรียนไทยเข้าร่วม 24 คน แบ่งเป็นประเภทคณิตศาสตร์ 12 คน และวิทยาศาสตร์ 12 คน ปรากฏว่าได้รับรางวัล รวม 25 รางวัล ประกอบด้วย ประเภทคณิตศาสตร์ ได้รับ 3 เหรียญทอง 8 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง ประเภทวิทยาศาสตร์ ได้รับ 7 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง รวมถึงรางวัลประเภททีม STEM Activities 1 รางวัล และรางวัล Best Exploration Award (คณิตศาสตร์) ในจำนวนนี้เป็นนักเรียนสังกัด สพฐ. 10 รางวัล, สช. 11 รางวัล, อว. 3 รางวัล และประเภททีม (รวมสังกัด) 1 รางวัล) ถือได้ว่าเป็นผลผลิตจากการนำนโยบายสู่การปฏิบัติ โดยผู้บริหารและครูผู้สอน ที่ได้ช่วยกันพัฒนาเด็กจนสามารถก้าวขึ้นมาสู่เวทีชั้นนำในระดับนานาชาติได้ ซึ่งเด็กๆ เหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติในการเป็นผู้นำด้านต่าง ๆ ในอนาคตต่อไป” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว
ข่าวโดย : กำธร สาธา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น