การประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 43/2568



สพฐ. ยกระดับการสอนภาษาจีน ใช้ AI เสริมการประเมินทั่วประเทศ พร้อมกำชับ 16 เขตพื้นที่ชายแดนเฝ้าระวังเข้ม-เพิ่มรายงานสถานการณ์วันละ 2 ครั้ง

.

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) มอบหมายให้ นายพิเชฐร์ วันทอง รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 43/2568 พร้อมด้วย นายวิษณุ ทรัพย์สมบัติ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) โดยเน้นย้ำข้อสั่งการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. เพื่อให้ผู้บริหารและบุคลากรดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วน โดยมีผู้อำนวยการสำนักต่างๆ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ

.

โดยในที่ประชุมได้รายงานความก้าวหน้าภารกิจสำคัญด้านคุณภาพการศึกษา และความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยหนึ่งในประเด็นสำคัญคือการเข้าร่วมประชุม World Chinese Language Conference 2025 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งนายพิเชฐ โพธิ์ภักดี ได้กล่าวปาฐกถาเรื่อง “โอกาสและความท้าทายของการประเมินผลภาษาจีนด้วยระบบอัจฉริยะ AI” พร้อมชี้ถึงบทบาทของเทคโนโลยีต่อการพัฒนาการวัดและประเมินผลในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และมองว่า AI จะเข้ามาเป็นเครื่องมือเสริม ไม่ได้มาแทนที่ครู และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระบบการเรียนรู้แบบผสมผสานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการในการยกระดับผู้เรียนสู่มาตรฐานสากล 

.

อีกทั้ง สพฐ. ยังเดินหน้ายกระดับการเรียนการสอนภาษาจีน โดยใช้มาตรฐาน HSK และ YCT ในการพัฒนาหลักสูตร การวัดผล และการพัฒนาครู รวมถึงส่งเสริมทั้งห้องเรียนทั่วไป (GCC) ที่เรียนภาษาจีนเป็นรายวิชาเพิ่มเติมและเน้นทักษะสื่อสารพื้นฐาน และห้องเรียนพิเศษภาษาจีน (CP) ที่ใช้ภาษาจีนสอนวิชาคณิตศาสตร์/วิทยาศาสตร์ เตรียมพร้อมศึกษาต่อและการประกอบอาชีพ โดยเน้นพัฒนาทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน และสามารถใช้ AI เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประเมินได้ โดยเฉพาะด้านการออกเสียง ความคล่องแคล่ว และการปรับข้อสอบตามระดับผู้เรียน และยังมีศึกษานิเทศก์ให้การสนับสนุน ครอบคลุมทั้ง 245 เขตทั่วประเทศ

.

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรายงานสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดย สพฐ. กำชับการเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัย การสนับสนุนทรัพยากร และการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ ขณะที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชายแดน 7 จังหวัดได้สะท้อนความต้องการเร่งด่วน เช่น งบประมาณตั้งศูนย์พักพิง การบริหารอาหารกลางวันช่วงปิดภาคเรียน การซ่อมแซมอาคารเรียน การเรียนทางไกล การเตรียมหลุมหลบภัย และการดูแลด้านสภาพจิตใจแก่ผู้ได้รับผลกระทบ

.

พร้อมกันนี้ สพฐ. ได้จัดทำระบบรายงานสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบ (obecbordersafe) ให้เขตพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาทั้ง 16 แห่ง ใช้งานได้อย่างถูกต้องและทันต่อเวลา โดยกำหนดให้รายงานข้อมูลวันละ 2 ครั้ง ในช่วงเช้า เวลา 09.00 น. และช่วงบ่าย เวลา 15.00 น. รวมถึงตั้งไลน์กลุ่มประสานงานเพื่อให้การติดตามสถานการณ์เป็นไปอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง







ข่าวโดย : ยศุเนตร ธรรมปาน

ที่มา >>>สพฐ. เร่งดูแลโรงเรียนน้ำท่วม 11 จังหวัด เล็งจัดงบภัยพิบัติทุกเขตพื้นที่ พร้อมขยายผล “หมอนทองฟีเวอร์” หนุนกีฬา-ดนตรีในโรงเรียน เสริมทักษะผู้เรียนตามความถนัดและสนใจ - OBEC<<<

ประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 42/2568

 

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 42/2568 พร้อมด้วย นายพิเชฐร์ วันทอง รองเลขาธิการ กพฐ. นายวิษณุ ทรัพย์สมบัติ รองเลขาธิการ กพฐ. และนางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย รองเลขาธิการ สพฐ. โดยเน้นย้ำข้อสั่งการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. เพื่อให้ผู้บริหารและบุคลากรดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วน พร้อมมอบแนวทางการทำงานที่มีประสิทธิภาพ โดยมีผู้อำนวยการสำนักต่างๆ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบ Zoom meeting

.

นายพิเชฐ กล่าวว่า วันนี้ในที่ประชุมได้หารือในประเด็นสำคัญต่างๆ เรื่องแรกคือ ผลการลงพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ ของผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อประชุมร่วมกับผู้บริหารการศึกษา ครูและบุคลากร รวมถึงภาคประชาชน และรับฟังปัญหาที่เกี่ยวกับการสร้างโอกาสและคุณภาพการศึกษา ทั้งการขาดแคลนครู อาคารบ้านพัก และความจำเป็นต้องซ่อมแซมอาคารสถานศึกษาต่าง ๆ โดยมีการหารือเรื่องงบประมาณซ่อมแซม ทั้งงบประจำปีและงบฉุกเฉิน พร้อมรับข้อเสนอให้มีงบภัยพิบัติประจำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขตละ 1 ล้านบาท และจะนำไปพิจารณากับสำนักงบประมาณต่อไป

.

ประเด็นต่อมา คือกระแสความสำเร็จของโรงเรียนหมอนทองวิทยา ในกีฬาฟุตบอล 7 คน รายการ “แชมป์กีฬา 7HD แชมเปียน คัพ 2025” ซึ่ง สพฐ. ภูมิใจและจะผลักดันให้เป็นต้นแบบ ขยายผลสู่โรงเรียนทั่วประเทศ ทั้งด้านกีฬา ดนตรี และทักษะต่าง ๆ ตามแนวทางพัฒนาผู้เรียนขององค์การยูเนสโก โดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบนโยบายให้ สพฐ. วางแผนสนับสนุนงบประมาณและพัฒนาโค้ชเพิ่มเติมอย่างเป็นระบบ ซึ่งแต่เดิมเรามีกิจกรรมกีฬา “สพฐ. เกมส์” อยู่แล้ว ก็จะดำเนินการให้เข้มข้นยิ่งขึ้น

.

อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญยิ่ง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขอแสดงความเสียใจต่อกรณีเหตุไฟดูดในสนามกีฬาที่ทำให้นักเรียนเสียชีวิต พร้อมขับเคลื่อนมาตรการป้องกันอุบัติเหตุในสถานศึกษาอย่างเร่งด่วน โดยได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ให้สถานศึกษาในสังกัดกว่า 400 แห่ง เข้าตรวจสอบและรับรองความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าในโรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจและป้องกันเหตุซ้ำรอย

.

พร้อมกันนี้ สพฐ. ได้ดำเนินโครงการ “โรงเรียนส่งเสริมความปลอดภัย” โดยน้อมนำแนวคิดจากมหาวิทยาลัยโอซาก้า เคียวอิคุ ประเทศญี่ปุ่น มาปรับใช้ในสถานศึกษาไทย เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยพื้นฐาน ทั้งด้านการเดินทางมาโรงเรียน ความปลอดภัยในอาคารเรียน และการป้องกันภัยเร่งด่วนต่าง ๆ โดยในปี 2568 มีโรงเรียนที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับนานาชาติจากประเทศญี่ปุ่นแล้วจำนวน 10 โรงเรียน ซึ่งในวันนี้ สพฐ. ได้มอบเกียรติบัตรให้แก่โรงเรียนต้นแบบดังกล่าว และเตรียมขยายผลไปยังโรงเรียนทั่วประเทศ

.

ในส่วนของสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ มีโรงเรียนได้รับผลกระทบใน 11 จังหวัด รวม 18 เขตพื้นที่การศึกษา (ระดับประถมศึกษา 14 เขต และมัธยมศึกษา 4 เขต) รวมทั้งสิ้น 159 โรงเรียน มีผู้ได้รับผลกระทบรวม 9,796 คน แบ่งเป็นนักเรียน 8,972 คน และครู 824 คน โดย สพฐ. ได้สั่งการให้ทุกเขตพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหายและเสนอของบประมาณซ่อมแซมเป็นการด่วน ซึ่งทางสำนักงบประมาณยืนยันพร้อมพิจารณาและเร่งรัดการช่วยเหลือทันที

ขณะเดียวกัน สพฐ. อยู่ระหว่างการวางกรอบทิศทางจัดทำงบประมาณปี พ.ศ. 2570 ร่วมกับสำนักงบประมาณ โดยเน้นการจัดสรรงบประมาณที่มุ่งส่งผลโดยตรงต่อผู้เรียนและครู เพื่อให้ดำเนินการได้ตามกำหนดภายในสิ้นปีนี้

อีกประเด็นสำคัญคือ การปรับเกณฑ์ การย้ายผู้อำนวยการสถานศึกษาและการสอบคัดเลือกครูผู้ช่วยกรณีพิเศษ (ว.16) ซึ่งเดิมมีข้อจำกัดทำให้ครูที่มีประสบการณ์สูงหลายรายไม่สามารถสอบผ่านได้ สพฐ. จึงได้ตั้งคณะทำงานเพื่อทบทวนเกณฑ์ดังกล่าว พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์ ก่อนเสนอให้คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) พิจารณาต่อไป

.

สำหรับความคืบหน้าโครงการเช่าใช้อุปกรณ์การเรียนสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4–6 ในพื้นที่ 118 เขตการศึกษา ขณะนี้มีการลงนามสัญญาแล้ว 36 เขต อยู่ระหว่างประกาศผู้ชนะ 34 เขต ส่วนเขตที่คืนงบประมาณคือ สพป.สมุทรปราการ เขต 1 เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตไม่เพียงพอและระบบแพลตฟอร์มยังไม่พร้อม ทั้งนี้ สพฐ. จะลงพื้นที่ติดตามการส่งมอบอุปกรณ์และการอบรมการใช้งาน เพื่อให้โครงการดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียนทั่วประเทศ

.

“สุดท้ายนี้ ขอเชิญชวนร่วมงาน Connext ED Education Forum ในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ที่ True Digital Park ซึ่งทาง สพฐ. ได้ดำเนินการร่วมกับภาคเอกชนภายใต้โครงการ Connext ED ที่ให้การสนับสนุนด้านการศึกษาแก่โรงเรียนกว่า 7,000 แห่ง โดยภายในงานจะมีการนำเสนอ Best Practice, Workshop ระดมความคิด, วงเสวนาวิชาการ และมอบรางวัลโรงเรียนต้นแบบ โดยสามารถรับชมออนไลน์ผ่านทาง Facebook และ Youtube OBEC Channel ได้ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว


ข่าวโดย : อัจฉรา ทั่งโม

ที่มา >>>สพฐ. เร่งดูแลโรงเรียนน้ำท่วม 11 จังหวัด เล็งจัดงบภัยพิบัติทุกเขตพื้นที่ พร้อมขยายผล “หมอนทองฟีเวอร์” หนุนกีฬา-ดนตรีในโรงเรียน เสริมทักษะผู้เรียนตามความถนัดและสนใจ - OBEC<<<


                                                                                                                                                          💥  คลิกลิ้งก์รายละเอียดที่นี่






การประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 41/2568


สพฐ. เล็งเปิด “พิพิธภัณฑ์ สพฐ.” บอกเล่าประวัติการศึกษาไทย ผ่านเทคโนโลยีสุดล้ำ พร้อมผนึกกำลังภาคเอกชน สานต่อ CONNEXT ED และเดินหน้าสื่อสารเรียนรู้ "ประวัติศาสตร์-หน้าที่พลเมือง" ผ่านการประชุมใหญ่ 27 พ.ย.นี้

.

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 41/2568 พร้อมด้วย นายพิเชฐร์ วันทอง รองเลขาธิการ กพฐ. นายวิษณุ ทรัพย์สมบัติ รองเลขาธิการ กพฐ. และนางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย รองเลขาธิการ สพฐ. โดยเน้นย้ำข้อสั่งการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. เพื่อให้ผู้บริหารและบุคลากรดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วน พร้อมมอบแนวทางการทำงานที่มีประสิทธิภาพ โดยมีผู้อำนวยการสำนักต่างๆ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบ Zoom meeting 

.

นายพิเชฐ กล่าวว่า วันนี้ในที่ประชุมได้หารือในประเด็นสำคัญต่างๆ เรื่องแรกคือ สพฐ. มีแนวคิดจัดตั้ง พิพิธภัณฑ์ของ สพฐ. เพื่อรวบรวมเรื่องราวความเป็นมาของ สพฐ. ตั้งแต่ยุคโรงเรียนประชาบาล พัฒนาสู่กรมสามัญศึกษา จนถึงปัจจุบัน โดยมีการแสดงผลงานและความเปลี่ยนแปลงด้านการศึกษาที่ดีขึ้น ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และทิศทางอนาคต รวมถึงการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น จอทัชสกรีน หรือระบบเสมือนจริง เพื่อให้ผู้ชมได้เรียนรู้พัฒนาการและบทบาทของ สพฐ. อย่างเข้าใจง่ายและทันสมัย

.

ในด้านความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก สพฐ. ร่วมกับภาคเอกชนภายใต้โครงการผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน หรือ CONNEXT ED ซึ่งมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการกว่า 7,000 โรงเรียน และมีบริษัทร่วมกว่า 400 แห่ง มีการใช้เทคโนโลยีระบบ Cloud เข้ามาช่วยเก็บรวบรวมสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว พร้อมนำเสนอเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นในโครงการให้สาธารณชนรับทราบ ซึ่งเร็วๆ นี้ ก็ได้เข้าหารือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) ในการขอสนับสนุนเทคโนโลยีที่กระทรวงมีอยู่ เพื่อประโยชน์ในการจัดการศึกษา และจะเพิ่มเติมให้ครอบคลุมจาก 7,000 โรงเรียน ขยายผลสู่โรงเรียนในสังกัด สพฐ. ทั่วประเทศ 29,005 แห่ง ต่อไป

.

ด้าน การเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง สพฐ. มุ่งพัฒนาให้เข้มข้นและร่วมสมัย ตามที่ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญและต้องการขับเคลื่อนอย่างจริงจัง โดยบูรณาการในหลายวิชา สอดคล้องกับยุคปัจจุบัน พร้อมเชื่อมโยงแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียน เช่น พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนรู้ มูลนิธิชัยพัฒนา เป็นต้น โดยในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วประเทศ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมถ่ายทอดสดผ่าน OBEC Channel เพื่อสื่อสารนโยบายรัฐบาลและแนวปฏิบัติตามหลักสูตร รวมถึงสิ่งที่เรากำลังดำเนินการเพื่อสร้างโอกาสและคุณภาพการศึกษา โดยมี ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ดูแลกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน และ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศธ. ร่วมมอบนโยบายที่จะขับเคลื่อนยกระดับการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

.

“นอกจากนี้ ยังได้หารือเรื่องการพัฒนาระบบบริหารงานอิเล็กทรอนิกส์ (E-Government) ที่อำนวยความสะดวกให้กับข้าราชการและภาคส่วนอื่น ๆ ตามแนวปฏิบัติของ กพร. ส่วนกลาง ที่ได้กำหนดให้ทุกหน่วยงานใช้เทคโนโลยีในการบริหารงาน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านที่ 6 ที่พูดถึง E - government การใช้เทคโนโลยีเพื่อการบริหารงานให้ตอบโจทย์ อาทิ งานด้านธุรการ การเงิน และสวัสดิการข้าราชการ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเริ่มทำตั้งแต่ปีที่ผ่านมาและปีนี้ก็จะพัฒนาระบบอื่นเพิ่มเติม และเรื่องสุดท้าย คือ ยินดีกับนักเรียนทุกคนที่ได้รับทุน ODOS ซึ่งเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ศึกษาทั้งในและต่างประเทศ โดยปีนี้มีนักเรียน สังกัด สพฐ. ที่มีสิทธิได้รับทุน 3,298 คน ในจำนวนนี้ 59 คนจะไปศึกษาต่อที่สหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการพัฒนาการศึกษาไทย ที่จะได้คนเก่งเข้ามาในระบบและพร้อมพัฒนาประเทศชาติต่อไปในอนาคต” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว