การประชุมผู้บริหารระดับสูง สพฐ. ครั้งที่ 42/2567

 

วันที่ 22 ตุลาคม 2567 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูง สพฐ. ครั้งที่ 42/2567 โดยมี นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 245 เขต รวมถึงที่ปรึกษา ผู้อำนวยการสำนัก ผู้เชี่ยวชาญ และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบ zoom meeting
.
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวว่า ตามที่ กระทรวงศึกษาธิการ นำโดย พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขับเคลื่อนนโยบาย ‘เรียนดี มีความสุข’ ลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน สร้างโรงเรียนที่มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การพัฒนาทักษะการเรียนรู้ เพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงนักเรียนและผู้ปกครองมีสุข โดยเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงาน “ร่วมกันปฏิวัติการศึกษา แก้ปัญหาประเทศอย่างยั่งยืน” จึงขอความร่วมมือให้ทุกสำนักและเขตพื้นที่ เร่งรัดการดำเนินงานในความรับผิดชอบของตนเอง ด้วยความรอบคอบ โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อให้การขับเคลื่อนงานของกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. เกิดประสิทธิภาพ นำไปสู่เป้าหมายคือการยกระดับการศึกษาของประเทศ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง
.
โดยการประชุมวันนี้ เลขาธิการ กพฐ. ได้นำข้อสั่งการของ รมว.ศธ. แจ้งต่อที่ประชุมเพื่อให้ผู้บริหารและบุคลากรดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วน เรื่องแรกคือเตรียมการฟื้นฟูโรงเรียนในภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย โดยเฉพาะโรงเรียนชุมชนบ้านไม้ลุงขนฯ เนื่องจากเมื่อสองอาทิตย์ก่อนที่ รมว.ศธ.และตนได้ลงไปตรวจเยี่ยม พบว่ายังมีดินโคลนท่วมสูงถึงเข่า จึงได้มีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ทั้งหน่วยงานทหาร องค์กรเอกชน และมูลนิธิต่างๆ และที่สำคัญได้ให้นักการภารโรงในเขตพื้นที่ สพป.เชียงราย เขต 3 ระดมกำลังกันทำความสะอาด โดยมีเป้าหมายคือวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ โรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จะสามารถเปิดภาคเรียนได้ตามปกติ และได้เร่งการจัดสรรงบประมาณเพื่อการปรับปรุงซ่อมแซมให้กับทุกโรงเรียน ให้สามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้อย่างปกติ โดยใช้คำว่า “10 วันสร้าง 10 วันซ่อม” เพื่อให้โรงเรียนเปิดเทอมทันวันที่ 1 พฤศจิกายนได้ตามปกติ
.
เรื่องที่สอง สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาล “Thailand Zero dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน” จึงให้ ผอ.สพท. สำรวจข้อมูลเด็กนักเรียนในเขตพื้นที่ของตนเองว่ามีจำนวนตกหล่นอยู่เท่าไหร่ ซึ่งตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้จากข้อมูลของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ชี้ว่ามีเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาอยู่จำนวน 1.02 ล้านคน แต่ในส่วนของ สพฐ.เอง ตรวจสอบแล้วพบว่ามีจำนวน 6 แสนกว่าคน ซึ่งทาง สพฐ. ได้กำชับเขตพื้นที่ให้ตรวจสอบหาเด็กทั้งหมดนี้ให้เจอว่าหลุดไปอยู่ที่ไหนบ้างและดำเนินการจัดระบบการค้นหา หรือหากพบแล้วเด็กไม่สะดวกกลับมาเรียน เราก็จะพาการศึกษาไปหาเด็กเองในพื้นที่ที่เด็กอยู่ ซึ่งแต่เดิมเราทำเรื่อง “พาน้องกลับมาเรียน” ต่อไปก็อาจเพิ่มเติมเรื่อง “พาการศึกษาไปหาน้อง” ด้วย เพื่อไม่ให้เกิดภาวะเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาตามนโยบายของรัฐบาล และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้กำชับว่านโยบาย “Thailand Zero dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน” ต้องทำกันอย่างจริงจัง โดยมีการอัพเดตข้อมูลเป็นรายสัปดาห์ด้วย
.
“เรื่องสุดท้าย คือเรื่องการเสนอเกณฑ์การย้ายครู-บรรจุครู โดยปัจจุบันเราไม่ได้มีการทำสถิติระหว่างครูที่โอนย้ายกับครูที่สอบขึ้นบัญชี ทำให้บางเขตพื้นที่มีการรับย้ายเต็ม 100% ทำให้เด็กรุ่นใหม่ที่สอบขึ้นบัญชีขาดโอกาสที่จะได้บรรจุ ซึ่งจะมีการหารือกันว่าทำอย่างไรให้เกิดความสมดุล ระหว่างการโอนย้ายครูที่มีอยู่แล้วกับเด็กที่เพิ่งจบใหม่ให้ได้มีโอกาสบรรจุเข้ารับราชการครู นี่ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ได้มีการหารือกันในวันนี้ ซึ่งหากได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้ว ทาง สพฐ. จะแจ้งให้ทราบต่อไป” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว


ข่าวโดย : สุชัญญา ขมเทศ

ที่มา >>>สพฐ. ประชุมผู้บริหารระดับสูง เร่งปรับปรุงโรงเรียนน้ำท่วมให้ทันเปิดเทอม “10 วันสร้าง 10 วันซ่อม” พร้อมเดินหน้าพาเด็กกลับเข้าระบบการศึกษา และหารือเตรียมปรับเกณฑ์ย้ายครู เปิดโอกาสครูใหม่ได้บรรจุ – สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน <<<

การประชุมผู้บริหารระดับสูง สพฐ. ครั้งที่ 41/2567

 

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูง สพฐ. ครั้งที่ 41/2567 โดยมี นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมผู้อำนวยการเขตตรวจราชการ รวมถึงที่ปรึกษา ผู้อำนวยการสำนัก ผู้เชี่ยวชาญ และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบ zoom meeting

ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา กล่าวว่า ตามที่ กระทรวงศึกษาธิการ นำโดย พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขับเคลื่อนนโยบาย ‘เรียนดี มีความสุข’ ลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน สร้างโรงเรียนที่มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การพัฒนาทักษะการเรียนรู้ เพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงนักเรียนและผู้ปกครองมีสุข โดยเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงาน “ร่วมกันปฏิวัติการศึกษา แก้ปัญหาประเทศอย่างยั่งยืน” จึงขอความร่วมมือให้ทุกสำนักและเขตพื้นที่ เร่งรัดการดำเนินงานในความรับผิดชอบของตนเอง ด้วยความรอบคอบ โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อให้การขับเคลื่อนงานของกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. เกิดประสิทธิภาพ นำไปสู่เป้าหมายคือการยกระดับการศึกษาของประเทศ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง

โดยการประชุมวันนี้ เลขาธิการ กพฐ. ได้นำข้อสั่งการของ รมว.ศธ. แจ้งต่อที่ประชุมเพื่อให้ผู้บริหารและบุคลากรดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะเรื่องของการเร่งสำรวจความเสียหายของสถานศึกษาในพื้นที่ตามประกาศภัยพิบัติของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่ประสบภัย โดย สพฐ. มีการประชุมจัดทำหลักเกณฑ์และแนวทางในการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนในสังกัด ได้รวบรวมข้อมูลเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณกรณีประสบภัยธรรมชาติ ซึ่งในขณะนี้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนในสังกัด กำลังรวบรวมข้อมูลในการเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณเงินอุดหนุนที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี 2567 สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละงบรายจ่าย อาทิ ค่าเครื่องแบบนักเรียน ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าหนังสือเรียน ค่าครุภัณฑ์ ค่าปรับปรุงซ่อมแซมอาคาร มายัง สพฐ. โดย สพฐ. ได้ทยอยจัดสรรเงินงบประมาณให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนในสังกัดที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติแล้ว

รวมถึงการสำรวจข้อมูลความเสียหายของสถานศึกษาที่ได้ผลกระทบจากอุทกภัย และต้องซ่อมแซมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย นั้น สพฐ. ได้เร่งสำรวจความเสียหายของโรงเรียนในสังกัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ทั้งทางด้านความปลอดภัยของนักเรียน บุคลากร อาคารสถานที่ และทรัพย์สินของทางราชการ พร้อมดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาโรงเรียน และหน่วยงานในสังกัด รวมถึงเร่งจัดทำแผนฟื้นฟูความเสียหาย โดยจัดทำแผนในระดับของเขตพื้นที่ให้สอดคล้องกับแผนในภาพรวมของ สพฐ. พร้อมจัดหาแหล่งงบประมาณ เพื่อจัดสรรให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนที่ประสบอุทกภัย ให้ได้รับการปรับปรุงและฟื้นฟูอาคารสถานที่อย่างเร่งด่วน

“สำหรับโรงเรียนที่ตัวอาคารไม่สามารถจัดการเรียนการสอนได้ ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียน รีบเสนอเรื่องมาที่ สพฐ. เพื่อที่จะดำเนินการจัดหาสถานที่ในการเรียนการสอนแบบน็อกดาวน์ ให้เด็กได้มีสถานที่เรียน ทันก่อนเปิดภาคเรียนที่ 2/2567 ในวันที่ 1 พฤศจิกายน นี้” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว


ข่าวโดย : นางสาวฐิติมา ชาลีกุล

ที่มา >>>สพฐ. เร่งฟื้นฟูความเสียหายจากเหตุภัยพิบัติ ให้ทันเปิดเทอม ย้ำ “เด็กต้องมีที่เรียน” – สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน | (obec.go.th)<<<

การประชุมผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. ครั้งที่ 40/2567

 

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูง สพฐ. ครั้งที่ 40/2567 โดยมี นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 245 เขต รวมถึงที่ปรึกษา ผู้อำนวยการสำนัก ผู้เชี่ยวชาญ และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบ zoom meeting

.

ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวว่า ตามที่ กระทรวงศึกษาธิการ นำโดย พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขับเคลื่อนนโยบาย ‘เรียนดี มีความสุข’ ลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน สร้างโรงเรียนที่มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การพัฒนาทักษะการเรียนรู้ เพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงนักเรียนและผู้ปกครองมีสุข โดยเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงาน “ร่วมกันปฏิวัติการศึกษา แก้ปัญหาประเทศอย่างยั่งยืน” จึงขอความร่วมมือให้ทุกสำนักและเขตพื้นที่ เร่งรัดการดำเนินงานในความรับผิดชอบของตนเอง ด้วยความรอบคอบ โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อให้การขับเคลื่อนงานของกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. เกิดประสิทธิภาพ นำไปสู่เป้าหมายคือการยกระดับการศึกษาของประเทศ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง

.

โดยการประชุมวันนี้ เลขาธิการ กพฐ. ได้นำข้อสั่งการของ รมว.ศธ. แจ้งต่อที่ประชุมเพื่อให้ผู้บริหารและบุคลากรดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะเรื่องของการเยียวยาผู้ประสบเหตุไฟไหม้รสบัสทัศนศึกษา ซึ่ง สพฐ. กำลังดำเนินการและมีความคืบหน้าใน 8 ด้าน ดังนี้

1. การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่ครูผู้เสียชีวิต ขณะนี้ สพฐ. ได้รวบรวมเอกสารขอเครื่องราชฯ ชั้นเบญจมาภรณ์มงกุฎไทยให้แก่ครูผู้เสียชีวิตแล้ว 

2. การขอเลื่อนเงินเดือน 7 ขั้น สพฐ. ได้ส่งเรื่องขอเลื่อนขั้นไปที่สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีการประชุมอนุกรรมการในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 นี้

3. การสร้างอนุสรณ์สถานเพื่อรำลึกถึงผู้ประสบเหตุฯ สพฐ. จะดำเนินการปรับปรุงสนามเด็กเล่นภายในโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการออกแบบและจัดสรรงบประมาณ

4. ติดต่อประสานทายาทของคุณครูผู้เสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ ในเรื่องของการเยียวยาต่างๆ และหากต้องการเข้ารับราชการ จะดำเนินการตามระเบียบต่อไป

5. ในส่วนของเงินเยียวยาที่ได้รับตามกฎหมายประกันชีวิต จะได้รับเงินรายละ 2,400,000 บาท

6. ยอดเงินบริจาคเข้ากองทุนช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ผ่านบัญชี “รวมน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบเหตุไฟไหม้รถบัสโดยสาร ขณะเดินทางไปทัศนศึกษาโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี” มียอดรวมกว่า 2,500,000 บาทแล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 9 ตุลาคม 2567) ซึ่งเมื่อปิดรับบริจาค จะจัดสรรมอบให้กับทายาทผู้เสียชีวิตรวมถึงผู้บาดเจ็บต่อไป

7. กรณีการเสียชีวิตของนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู นางสาวสริญญา หอมเกษร ได้รับแจ้งว่าทางสภามหาวิทยาลัยได้อนุมัติปริญญา ให้เป็นผู้สำเร็จการศึกษาเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากได้ฝึกสอนเกินกว่าร้อยละ 70 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

8. สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ได้ขอพระราชทานเหรียญสรรเสริญ ชั้นที่ 1 ให้กับครูทั้ง 3 รายที่เสียชีวิตด้วย

“นอกจากการเยียวยาผู้เสียชีวิตแล้ว ในส่วนของผู้บาดเจ็บที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลก็ได้มีการติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง พร้อมช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิต่าง ๆ ทั้งทุนการศึกษา การฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ ทั้งนักเรียน ครู และผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบ โดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล ขอให้มีการเยียวยาในภาพรวมทุกมิติ ส่วนการจัดกิจกรรมทัศนศึกษาหรือการพานักเรียนไปศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่ ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ แต่ขอให้ทุกกิจกรรม ทั้งภายในหรือนอกสถานศึกษา ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักเรียนและครูเป็นสำคัญ และปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดด้วย” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว


ข่าวโดย : สุชัญญา ขมเทศ

ที่มา >>>สพฐ. ประชุมผู้บริหารระดับสูง เดินหน้าเรียนดีมีความสุข พร้อมเร่งเยียวยาผู้ประสบเหตุรถบัสทัศนศึกษา” – สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน | (obec.go.th)<<<